เนื่องจากภาษาจีนเริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยมากขึ้น ดังนั้นในปัจจุบันจึงมีจำนวนการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรียนแค่เฉพาะภาษาจีนตามสถาบันกวดวิชาต่างๆเพื่อให้สามารถสื่อสารภาษาจีนได้ หรือตามที่สถานศึกษาต่างๆได้บรรจุวิชาภาษาจีนลงไปในการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ทั้งภาษา และวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งรวมไปถึงผู้ที่มีความชื่นชอบในด้านต่างๆของประเทศจีน ผู้ที่ทำการค้ากับชาวจีน หรือผู้ที่กำลังศึกษาภาษาจีนด้วยตนเอง
ด้วยเหตุผลตามที่กล่าวมาข้างต้น จึงเกิดเป็นบทความที่มีเกร็ดความรู้สำหรับผู้ที่สนใจภาษาจีน แต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นที่จุดใดมาให้ได้อ่านกันนะคะ
วันนี้จะเริ่มต้นกันที่ ตัวเลข หรือการนับเลขในภาษาจีนกลางกันค่ะ ซึ่งบางท่านอาจจะยังไม่ทราบว่าการอ่านตัวเลขตามป้ายราคาสินค้า หรือการนับเลขในภาษาจีนกลางที่เราสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันนั้นเป็นอย่างไร และจะยากหรือไม่ ลองมาดูกันนะคะกับ การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 1
หลักหน่วย
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 0 |
一 | 二 | 三 | 四 | 五 | 六 | 七 | 八 | 九 | 零 |
yī | èr | sān | sì | wǔ | liù | qī | bā | jiǔ | ling |
(อี) | (เอ้อร์) | (ซาน) | (ซื่อ) | (อู่ว) | (ลิ่ว) | (ชี) | (ปา) | (จิ่ว) | (หลิง) |
หลักสิบ
10 | 20 | 30 | 40 | 50 | 60 | 70 | 80 | 90 |
十
| 二十
| 三十
| 四十
| 五十
| 六十
| 七十
| 八十 | 九十 |
shí
| èrshí
| sānshí | sìshí | wǔshí | liùshí | qīshí | bāshí | jiǔshí |
(สือ) | (เอ้อร์ สือ)
| (ซาน สือ)
| (ซื่อ สือ)
| (อู่ว สือ)
| (ลิ่ว สือ)
| (ชี สือ)
| (ปา สือ)
| (จิ่ว สือ)
|
หลักร้อย
100 | 200 | 300 | 400 | 500 | 600 | 700 | 800 | 900 |
一百
| 二百、两百
| 三百
| 四百
| 五百
| 六百
| 七百
| 八百 | 九百 |
yībǎi
| èrbǎi,liǎngbǎi
| sānbǎi
| sìbǎi
| wǔbǎi
| liùbǎi
| qībǎi
| bābǎi
| jiǔbǎi
|
(อี ป่าย)
| (เอ้อร์ ป่าย,เหลียง ป่าย)
| (ซาน ป่าย) | (ซื่อ ป่าย)
| (อู่ว ป่าย)
| (ลิ่ว ป่าย)
| (ชี ป่าย)
| (ปา ป่าย)
| (จิ่ว ป่าย) |
ข้อสังเกต
กรณีการอ่าน 200 500 และ900 จากคำอ่านภาษาไทย จะเห็นได้ว่าวรรณยุกต์ไม่ตรงกับตัวพินอิน(ตัวอ่านภาษาจีนที่เป็นอักษรโรมัน) เพราะในกฎการผันเสียงวรรณยุกต์ของภาษาจีนนั้นมีอยู่ว่าเมื่อเสียงสามชนกับเสียงสาม เวลาที่อ่านคำแรกหรือคำที่อยู่ด้านหน้าจะผันเป็นเสียงสองทันที แต่รูปการเขียนไม่เปลี่ยนแปลง
***วิธีการอ่าน และนับจำนวนเพิ่มเติม
การอ่านหลักสิบ ให้อ่านจำนวนหลักสิบก่อน แล้วตามด้วยหลักหน่วย ดังนี้
11=十一shíyī(สือ อี)
25=二十五èrshíwǔ(เอ้อร์ สือ อู่ว)
44=四十四sìshísì(ซื่อ สือ ซื่อ)
การอ่านหลักร้อย ให้อ่านจำนวนหลักร้อยก่อน แล้วตามด้วยหลักสิบกับหลักหน่วย ดังนี้
120=一百二十yībǎi èrshí(อีป่าย เอ้อร์ สือ)
145=一百四十五yībǎi sìshíwǔ(อีป่าย ซื่อ สือ อู่ว)
และจะแบ่งออกเป็นกรณีพิเศษ ดังนี้
1.เมื่ออ่านตัวเลขหลักร้อยที่มีเลข “0” อยู่ตรงกลาง
101=一百零一 yībǎi líng yī(อีป่าย หลิง อี)
409=四百零九 sìbǎi líng jiǔ(ซื่อป่าย หลิง จิ่ว)
2.เมื่ออ่านตัวเลขที่ขึ้นต้นด้วยเลข “2” ตั้งแต่หลักร้อยขึ้นไป
200=两百liǎng bǎi(เหลียงป่าย)
222=两百二十二 liǎngbǎi èrshíèr (เหลียงป่าย เอ้อร์สือเอ้อร์)
2,008 =两千零八liǎng qiān líng bā(เหลี่ยงเชียน หลิง ปา)
250,000 =二十五万èrshíwǔ wàn(เอ้อร์สืออู่วว่าน)
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับการอ่านตัวเลข 1-100 เป็นภาษาจีน ไม่ยาก แล้วก็ไม่ง่ายไปซะทีเดียวใช่รึเปล่าคะ เหล่าซือของผู้เขียนมักจะบอกเสมอว่า การเรียนรู้ภาษาต้องฝึกฝนบ่อยๆ พอเริ่มชิน เราก็จะได้ภาษานั้นๆเองนะคะ
ส่วนในตอนต่อไปของการอ่านตัวเลขในภาษาจีนนั้น ผู้เขียนจะนำอะไรมาอธิบายเพิ่มเติมบ้าง รอติดตามดูนะคะ กับ “การอ่านตัวเลขในภาษาจีน ตอนที่ 2”